2.การวิ่งด้วยความเร็วพอเหมาะ

การวิ่งด้วยความเร็วพอเหมาะนั้นจะช่วยให้สามารถวิ่งได้ไกลและนานกว่า ในกระบวนการเผาผลาญของร่างกายจะเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานต้องใช้ออกซิเจน ซึ่งการออกกำลังกายมากก็ยิ่งได้ออกซิเจนมาก เมื่อไขมันแตกตัว กล้ามเนื้อที่ใช้ในการออกกำลังกายจะนำไขมันมาใช้เป็นพลังงานจนหมด แต่หากวิ่งด้วยความเร็วจะทำให้เหนื่อยง่ายและวิ่งได้ไม่นาน ทำให้ร่างกายดึงน้ำตาลในกระแสเลือดมาเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานแทนการใช้ไขมันที่ใช้เวลามากกว่า

3.เสื้อผ้าช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันได้

การวิ่งเพื่อลดน้ำหนักควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี ซับเหงื่อและแห้งไว การสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาในขณะวิ่งเพื่อลดน้ำหนักนั้นจะทำให้ร่างกายขาดน้ำและพลังงานที่จะใช้ในการเผาเผลาญไขมัน และทำให้ปริมาณน้ำในเลือดลดลง ทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ เลือดไปเลี้ยงสมองและกระเพาะน้อยลง เป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะ หน้ามืดได้

4.อยากผอมให้เร็วขึ้น

หากต้องการลดน้ำหนักให้เร็วขึ้นนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดคือการ เพิ่ม อาจจะเพิ่มระดับความเร็วในการวิ่งให้มากขึ้นในปริมาณที่ไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือวิ่งในระดับความเร็วเท่าเดิมแต่เพิ่มระยะการวิ่งขึ้นไปอีก จะช่วยเผาผลาญได้มากขึ้น

5.เวทเทรนนิ่งก่อนวิ่ง ช่วยสลายไขมันได้ดี

การเวทเทรนนิ่งก่อนวิ่งจะช่วยในการเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนได้ดี เพราะการเวทเทรนนิ่งจะช่วยให้ร่างกายหลังสารโกรท ฮอร์โมน (Growth hormone) และนอร์อะดินาลีน (noradrenalin) กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ไลเปสที่ย่อยสลายไขมันออกมา และจะยิ่งได้ผลดีหากมีการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอต่อด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เทคนิคการวิ่งให้ลดน้ำหนักนั้นเป็นเพียงส่วนที่ช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักก็ควรที่จะควบคุมอาหารควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับใครที่่สนใจเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาค และวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและหุ่นที่ดี มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ขอเชิญชวนคนไทยทั่วทั้งประเทศ ร่วมกิจกรรมงานวิ่งการกุศลเพื่อส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “RUN FOR HEART PARALYMPIC THAI” วิ่งเพื่อหัวใจพาราลิมปิกไทย รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย คลิก >>  bit.ly/3754FXW