กลุ่มโรค NCDs ทำเสียชีวิต 35 ล้านคนต่อปี ป้องกันได้แค่เปลี่ยนพฤติกรรม
พาไปรู้จัก กลุ่มโรค NCDs ว่าคืออะไร พร้อมวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่คุณรัก
เป็นที่ทราบกันดีว่าทั่วโลกรวมถึงคนไทยส่วนใหญ่ มักมีพฤติกรรมการกินการดื่มเป็นประจำจนบางครั้งหลงลืมไปว่า... ร่างกายได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะ 6 กลุ่มโรคร้ายที่เรียกกันว่า "NCDs" นี่แหละ ทำคนทั่วโลกเสียชีวิตถึง 35 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
กลุ่มโรค NCDs คืออะไร?
กลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) หรือ ชื่อภาษาไทยเรียกว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งไม่สามารถแพร่เชื้อ ไม่ติดต่อจากการคลุกคลี สัมผัส หรือ ติดต่อผ่านพาหะ โดยองค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่า 10 ปีที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 75% จากการเสียชีวิตทั้งหมด
กลุ่มโรค NCDs มีอะไรบ้าง?
ประกอบไปด้วย 6 โรค ได้แก่ โรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคความดันโลหิตสูง, โรคถุงลมโป่งพอง และ โรคอ้วนลงพุง
วิธีป้องกันการเกิดกลุ่มโรค NCDs มีอะไรบ้าง?
1. เลือกรับประทานอาหาร 5 หมู่ ให้ครบ 3 มื้อ ใน 1 มื้อ ประกอบไปด้วย ผัก 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน และ แป้ง 1 ส่วน
2. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสำเร็จรูป อาหารรสจัด หวาน มัน เค็ม
3. เลือกรับประทานผักและผลไม้มากขึ้นกว่าเดิม
4. เลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
5. หันมาออกกำลังกายง่ายๆ อาทิ วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ โยคะ คาดิโอ ฯลฯ รวมแล้วอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที
6. ปรับทัศนคติไปทางบวก ช่วยลดความเครียด
7. ใช้หลักธรรมในการดำรงชีวิต ช่วยบำบัดจิตใจให้ผ่องใส
8. บอกกล่าว ตักเตือน และให้กำลังใจคนใกล้ชิด แล้วหันมาใส่ใจสุขภาพร่วมกัน
9. ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
9. ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งหากเราปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หรือค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นไปตามคำแนะนำข้างต้น จะเพิ่มโอกาสในการเกิดกล่มโรค NCDs ได้ถึง 80% มะเร็ง 40% โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ และโรคเบาหวาน ประเภทที่2 ได้ถึง 80% เลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยข่าวดี สำหรับคนที่อยากมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากกลุ่มโรค NCDs พบกันได้ที่งาน "มหกรรมยำใหญ่ใส่สุขภาพ" จัดโดย มูลนิธิเวลเนสแคร์ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยไตเสื่อม ในวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2562 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซื้อบัตร คลิก! https://bit.ly/2Fo7klc
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th