เปิดใจ เก้ง-เขมวัฒน์ เริงธรรม จากนักร้องสู่พระเอกละครเพลง สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล
หากพูดถึงพระเอกละครเวทีที่กำลังเนื้อหอมสุดๆ ในตอนนี้ เก้ง - เขมวัฒน์ เริงธรรม ต้องติดชื่ออย่างแน่นอน
สำหรับหนุ่มเก้งเองเป็นอดีตนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ นักร้องของวงซียูแบนด์ ที่เคยฝากผลงานการร้องเพลงไว้ในฐานะนักร้องของวง Crescendo นักดนตรีหนุ่มคนนี้เข้าเริ่มเข้ามาสู่วงการของละครเวทีจากมิวสิคัลเรื่อง ก๊วนคานทอง Love Game The Musical ในปี พ.ศ. 2559 โดยการชักชวนของ จ๋า- สุดาพิมพ์ โพธิภักติ แห่ง Be Musical รุ่นพี่จาก CU Band และละครเรื่องนี้เองที่เปิดประตูของโลกละครเวทีให้เก้ง - เขมวัฒน์ สู่การเป็นพระเอกละครเวทีในเรื่องถัดไป ทั้งเรื่อง ซ้อน A New Musical ของดรีมบ็อกซ์ เมื่อปี 2561 และภายในปี พ.ศ.2562 นี้เองเขาได้รับการชักชวนให้ไปร่วมแสดงเป็นพระเอกของละครเวทีถึง 3 เรื่อง ได้แก่ นางฟ้า เดอะ มิวสิคัล ซึ่งเป็นละครเพลงโรแมนติก คอมเมดี้ ที่แสดงไปแล้วเมื่อต้นปี , น้ำเงินแท้ เดอะมิวสิคัล ละครเพลงที่อิงจากนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของ วินทร์ เลียววาริณ และ สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล ละครเพลงที่นำนิยายชื่อดังและบทโทรทัศน์ยอดฮิตมาตีความในรูปแบบใหม่ เก้งจะมาเปิดใจจากมุมมองของนักร้องที่ได้รับโอกาสในการแสดงละครเวที ว่าเขารู้สึกอย่างไร และรู้สึกอย่างไรกับฉายา พระเอกละครเวทีเนื้อหอม
ประสบการณ์การแสดงละครละครเวทีเรื่องแรกเป็นยังไง?
เปิดด้วยคำถามเบสิคถึงประสบการณ์การแสดงละครเวที คำตอบหนุ่มเก้งดูตรงไปตรงมา "ผมเริ่มมาจากสายนักร้องเพลงธรรมมา ไม่ได้มาจากสายการแสดงหรือมิวสิคัล เราแค่ชอบร้องเพลง พอมีโอกาสได้มาร้องในสไตล์มิวสิคัลครั้งแรกผมเลยรู้สึกว่ามันยากมาก ๆ ครับ เพราะผมติดการร้องเพลงอย่างเดียว โดยไม่ต้องนึกถึงความเป็นคาแรกเตอร์ของคนอื่น หรือสวมบทบาทใคร เราแค่ร้องในมุมมองที่เราอยากจะร้อง แต่พอเป็นละครเวทีมันต้องร้องเพื่อสื่อสารในความเป็นตัวละคร"
รู้สึกยังไงบ้างเมื่อได้มารับหน้าที่เป็นพระเอกถึง 3 เรื่องในปีนี้?
หนุ่มเก้ง แอบยิ้มและบอกว่า "สนุกมากครับ ไม่คิดว่าจะมาเยอะขนาดนี้ คิดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลานึงในชีวิตที่โอกาสเข้ามาพร้อม ๆ กัน และก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีด้วยครับ เพราะการที่ผมแสดงละครเวทีในปีนี้มันมีหลากหลายบทบาท ที่จะนำส่งให้คนดู เลยถือเป็นการพัฒนาตนเองไปอีกขั้นหนึ่ง"
ความรู้สึกตอนเล่นเรื่องแรกจนถึงปัจจุบันนี้ความรู้สึกที่มีต่อมิวสิคัลเหมือนเดิมไหม?
เมื่อถามถึงคำถามนี้ หนุ่มเก้งตอบอย่างมั่นใจว่า เปลี่ยนไปมาก เพราะตนเองเริ่มรู้ทิศทางในการปรับตัว พอมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาเราพอจะรู้แพทเทิร์นของการทำงาน ทั้งในเรื่องการร้อง การแสดง การบล็อกกิ้งต่าง ๆ ตอนนี้ก็ทำให้เราทำงานกับตัวเองได้ง่ายขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าต้องทำการบ้านตรงไหนบ้าง ก็ช่วยให้ใช้เวลาเตรียมตัวได้น้อยลง
คิดว่าการร้องเพลงและการแสดงละครเวที นำมาพัฒนาตนเองร่วมกันได้อย่างไร?
พระเอกละครเวที หน้าคม มาดนิ่ง ได้บอกกับเราว่าการทำเพลงเป็นสิ่งที่ตนเองรักอยู่แล้ว เพราะเริ่มต้นมาจากจุดนั้น มันเป็นเหมือนเป็นสิ่งที่ยังอยู่ในตัวเราอยากทำให้สำเร็จ ซึ่งการร้องเพลงเป็นเหมือนโอกาสดี ๆ มาสู่ชีวิตผม ให้ผมได้มีโอกาสในการแสดงละครเวทีได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในขณะเดียวกัน การเล่นละครเวทีก็ช่วยให้การร้องเพลงของผมดีขึ้นด้วย
"เมื่อผมมาเล่นละครเวที ทำให้การร้องเพลงช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเราจะกังวลแต่ว่าเพลงที่เราร้องมันเพราะไหม แต่เดี๋ยวนี้การได้มาร้องเพลงละครมันมีเรื่องของการทำให้คนเข้าใจในสิ่งที่เราอยากสื่อสาร มันคือเรื่องที่เราต้องส่งต่อไปให้ถึงคนดู แล้วบางทีเพลงเดียวกันมันร้องได้หลายอารมณ์มาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตีความตัวละครนั้นออกมาในแนวไหน มันเลยช่วยให้เราเป็นคนฟังเพลงที่ลึกขึ้น ตีความเพลงได้หลายหลายขึ้น มันเลยส่งเสริมกันไปอย่างดีเลย"
ทั้งนี้ หนุ่มเก้ง ได้ฝากผลงานละครเพลงที่แสดงกับ บี มิวสิคัล อย่างเรื่อง สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล ว่า เรื่องนี้ตนเองตั้งใจมาก ๆ และด้วยความที่เป็นละครเพลงแนวโรแมนติก – คอมเมดี้ ตนเองได้ฝึกการร้อง การเต้น ที่สำคัญการทำอาหารแบบจริงจังเพื่อเสิร์ฟความสนุกให้คนดูให้อิ่มเอมใจ
โดย สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล จะเปิดม่านการแสดงในวันที่ 27 กันยายน นี้ ณ โรงละครเอ็มเธียร์เตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
ประสบการณ์การแสดงละครละครเวทีเรื่องแรกเป็นยังไง?
เปิดด้วยคำถามเบสิคถึงประสบการณ์การแสดงละครเวที คำตอบหนุ่มเก้งดูตรงไปตรงมา "ผมเริ่มมาจากสายนักร้องเพลงธรรมมา ไม่ได้มาจากสายการแสดงหรือมิวสิคัล เราแค่ชอบร้องเพลง พอมีโอกาสได้มาร้องในสไตล์มิวสิคัลครั้งแรกผมเลยรู้สึกว่ามันยากมาก ๆ ครับ เพราะผมติดการร้องเพลงอย่างเดียว โดยไม่ต้องนึกถึงความเป็นคาแรกเตอร์ของคนอื่น หรือสวมบทบาทใคร เราแค่ร้องในมุมมองที่เราอยากจะร้อง แต่พอเป็นละครเวทีมันต้องร้องเพื่อสื่อสารในความเป็นตัวละคร"
รู้สึกยังไงบ้างเมื่อได้มารับหน้าที่เป็นพระเอกถึง 3 เรื่องในปีนี้?
หนุ่มเก้ง แอบยิ้มและบอกว่า "สนุกมากครับ ไม่คิดว่าจะมาเยอะขนาดนี้ คิดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลานึงในชีวิตที่โอกาสเข้ามาพร้อม ๆ กัน และก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีด้วยครับ เพราะการที่ผมแสดงละครเวทีในปีนี้มันมีหลากหลายบทบาท ที่จะนำส่งให้คนดู เลยถือเป็นการพัฒนาตนเองไปอีกขั้นหนึ่ง"
ความรู้สึกตอนเล่นเรื่องแรกจนถึงปัจจุบันนี้ความรู้สึกที่มีต่อมิวสิคัลเหมือนเดิมไหม?
เมื่อถามถึงคำถามนี้ หนุ่มเก้งตอบอย่างมั่นใจว่า เปลี่ยนไปมาก เพราะตนเองเริ่มรู้ทิศทางในการปรับตัว พอมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาเราพอจะรู้แพทเทิร์นของการทำงาน ทั้งในเรื่องการร้อง การแสดง การบล็อกกิ้งต่าง ๆ ตอนนี้ก็ทำให้เราทำงานกับตัวเองได้ง่ายขึ้น เพราะเรารู้แล้วว่าต้องทำการบ้านตรงไหนบ้าง ก็ช่วยให้ใช้เวลาเตรียมตัวได้น้อยลง
คิดว่าการร้องเพลงและการแสดงละครเวที นำมาพัฒนาตนเองร่วมกันได้อย่างไร?
พระเอกละครเวที หน้าคม มาดนิ่ง ได้บอกกับเราว่าการทำเพลงเป็นสิ่งที่ตนเองรักอยู่แล้ว เพราะเริ่มต้นมาจากจุดนั้น มันเป็นเหมือนเป็นสิ่งที่ยังอยู่ในตัวเราอยากทำให้สำเร็จ ซึ่งการร้องเพลงเป็นเหมือนโอกาสดี ๆ มาสู่ชีวิตผม ให้ผมได้มีโอกาสในการแสดงละครเวทีได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในขณะเดียวกัน การเล่นละครเวทีก็ช่วยให้การร้องเพลงของผมดีขึ้นด้วย
"เมื่อผมมาเล่นละครเวที ทำให้การร้องเพลงช่วยให้เราสื่อสารได้มากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเราจะกังวลแต่ว่าเพลงที่เราร้องมันเพราะไหม แต่เดี๋ยวนี้การได้มาร้องเพลงละครมันมีเรื่องของการทำให้คนเข้าใจในสิ่งที่เราอยากสื่อสาร มันคือเรื่องที่เราต้องส่งต่อไปให้ถึงคนดู แล้วบางทีเพลงเดียวกันมันร้องได้หลายอารมณ์มาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตีความตัวละครนั้นออกมาในแนวไหน มันเลยช่วยให้เราเป็นคนฟังเพลงที่ลึกขึ้น ตีความเพลงได้หลายหลายขึ้น มันเลยส่งเสริมกันไปอย่างดีเลย"
ทั้งนี้ หนุ่มเก้ง ได้ฝากผลงานละครเพลงที่แสดงกับ บี มิวสิคัล อย่างเรื่อง สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล ว่า เรื่องนี้ตนเองตั้งใจมาก ๆ และด้วยความที่เป็นละครเพลงแนวโรแมนติก – คอมเมดี้ ตนเองได้ฝึกการร้อง การเต้น ที่สำคัญการทำอาหารแบบจริงจังเพื่อเสิร์ฟความสนุกให้คนดูให้อิ่มเอมใจ
โดย สูตรเสน่หา เดอะมิวสิคัล จะเปิดม่านการแสดงในวันที่ 27 กันยายน นี้ ณ โรงละครเอ็มเธียร์เตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์