ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น Tateyama-Kurobe Alpine Route

กินเที่ยว
ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิต ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น Tateyama-Kurobe Alpine Route

ใครกำลังอยากพาครอบครัวไปสัมผัสหิมะ วันนี้ มัชรูมทราเวล จะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้ๆ แต่ทัศนียภาพสวยไม่แพ้ใครที่ประเทศญี่ปุ่น

กับทริปพิชิต เจแปนแอลป์ ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route ที่สามารถสนุกได้ทุกเพศทุกวัย ควรค่าแก่การไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิตกันค่ะ!
 

 
Tateyama-Kurobe Alpine Route เป็นเส้นทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดโทยามะและจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น พาดผ่านวิวทิวทัศน์ที่สลับซับซ้อนของเทือกเขาแอลป์ หรือที่หลายๆ คนนิยมเรียกกันติดปากว่า เจแปนแอลป์ นั่นเองค่ะ
 
 
จุดที่สูงที่สุดของ เจแปนแอลป์ คือ ยอดเขาทาเตยามะ มีความสูงประมาณ 3,015 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นที่สองในประเทศญี่ปุ่นรองจากภูเขาไฟฟูจิ แต่จุดที่สูงที่สุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไป ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น ได้อยู่ที่ Murodo ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,450 เมตร จุดนี้เองที่มีไฮไลท์สำคัญที่เรียกว่า “Yuki no Otani” หรือ “กำแพงหิมะ” จุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
 
เริ่มอยากขึ้นไปชมกำแพงหิมะและยอดเขาทาเตยามะกันหรือยังคะ? มัชรูมทราเวลมีข้อมูลและข้อแนะนำต่างๆ ในการเที่ยวในเส้นทางนี้มาฝากค่ะ

ช่วงเวลาชมกำแพงหิมะ ญี่ปุ่น 2019
 
ช่วงเวลาที่ให้บริการบนเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศค่ะ สำหรับการเปิดให้บริการของเส้นทางต่างๆ ในปี 2019 มีดังนี้ค่ะ
 
ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการทุกเส้นทาง (Dentetsu Toyama - Shino Omachi) :
15 เมษายน - 30 พฤศจิกายน 2019
 
ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการบางส่วน (Dentetsu Toyama - Midagahara) :
10 - 14 เมษายน 2019
 
ปิดเส้นทางตั้งแต่ :
เดือนธันวาคม - ต้นเดือนเมษายน
 
ใครไม่อยากพลาดโอกาสการชมในแต่ละปี ก็สามารถวางแผนและตรวจสอบช่วงเวลาให้บริการ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.alpen-route.com จะมีข่าวสารมาอัพเดตกันอยู่เรื่อยๆ เลยค่ะ
 
การเดินทาง
 
สำหรับการเดินทางบนเส้นทาง ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น Tateyama-Kurobe Alpine Route นี้ สามารถเข้าถึงได้สะดวกด้วยระบบขนส่งต่างๆ เช่น รถไฟ เคเบิ้ลคาร์ กระเช้าไฟฟ้า รถบัส และรถประจำทาง โดยจะเริ่มตั้งแต่จากพื้นที่ราบขึ้นไปยังภูเขาสูง รวมระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางก็จะผ่านทัศนียภาพหลากหลายที่สวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
 
 
ใครสนใจอยากขึ้นไปพิชิตเจแปนแอลป์ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route สามารถวางแผนการเดินทาง โดยเริ่มต้นได้จาก 2 เมือง คือ ทางเมืองโทยามะ (สถานี Dentetsu Toyama ) และเมืองนากาโนะ (สถานี Nagano) ค่ะ แนะนำให้พักค้างคืนที่เมืองใกล้ๆ ก่อนออกเดินทางขึ้นไปยังเทือกเขาทาเตยามะนะคะ จะได้เดินทางไม่เหนื่อยจนเกินไป เพราะว่าต้องเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า และใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะเดินทางให้ครบทุกเส้นทางค่ะ
 
อุณหภูมิและการแต่งกาย
 
เนื่องจากเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route เป็นเส้นทางบนเทือกเขาสูง อุณหภูมิจึงมีความแตกต่างกับพื้นที่ราบโดยรอบอย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ ก่อนการเดินทางก็อยากให้ทุกคนเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อที่จะได้เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน
 
สำหรับอุณหภูมิในช่วงพีคของการเดินทาง ช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน-พฤษภาคม บนเส้นทาง เจแปนแอลป์ ที่จุดมุโรโดะ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ -3 องศาเซลเซียสเลยค่ะ ส่วนอุณหภูมิบริเวณเมืองโทยามะ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส
 
Cr. Flickr / Pietro Zanarini
 
การเตรียมความพร้อมในเรื่องของร่างกายและการแต่งกายจึงสำคัญมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะในช่วงพีคของกำแพงหิมะ “ยูคิโนะโอทานิ” เพราะฉะนั้นเราควรเตรียมและกันหนาว หรือเสื้อผ้าหนาๆ ที่ให้ความอบอุ่นได้ดี อย่างเช่น เสื้อแจ็คเก็ต เสื้อโค้ท ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม ถุงมือ และถ้าจะให้ดีก็ควรจะมี แผ่นแปะความร้อน รวมถึงอุปกรณ์กันฝนเผื่อไว้ในกรณีที่อากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันด้วยนะคะ
 
มาถึงที่เที่ยวไฮไลท์ที่น่าสนใจของ ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น เส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route กันบ้างค่ะ ในช่วงที่เปิดให้บริการครบทุกเส้นทาง เราจะได้เต็มอิ่มกับทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาทาเตยามะตลอดระยะทาง 90 กิโลเมตรเลยล่ะค่ะ มาดูกันว่าไฮไลท์ที่ต้องไปชมมีอะไรบ้าง
 
กำแพงหิมะ “Yuki no Otani”


 
จุดชม กำแพงหิมะ หรือ ยูคิโนะโอทานิ จะอยู่ที่บริเวณ มุโรโดะ (Murodo) กำแพงหิมะที่มีความสูงกว่า 20 เมตร จะตั้งตระหง่านรอต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นทางเดินยาวตามถนน ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร ซึ่งตรงจุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามของกำแพงหิมะผ่านกระจกบนรถบัส ซึ่งเป็นรถของทางอุทยานที่ขับโดยคนขับผู้มีความชำนาญเส้นทาง และก้าวลงมาเดินเท้าสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ
 
 
โดยปกติการ ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น จะเปิดให้เข้าชมประมาณกลางเดือนเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี และหลังจากเดือนมิถุนายนไปแล้ว กำแพงหิมะเหล่านี้จะค่อยๆ ลดระดับความสูงลง แต่จะยังคงมีให้เห็นไปจนถึงสิงหาคมค่ะ เป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “เที่ยวชมหิมะในฤดูร้อน” อย่างแท้จริงนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากพาครอบครัวไปสัมผัสกับหิมะสีขาว แต่ช่วงฤดูหนาวยังไม่ว่างเลย ก็ลองเก็บ ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route ไว้เป็นตัวเลือกนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
 
เส้นทางธรรมชาติมุโรโดะ

 
บริเวณมุโรโดะ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นจุดชมกำแพงหิมะแล้ว พื้นที่รอบๆ มุโรโดะ ยังเป็นเส้นทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ที่น่าสนใจมากมาย และเป็นจุดเริ่มของเส้นทางเจแปนแอลป์สำหรับนักท่องเที่ยวที่พักอยู่บริเวณนี้ด้วยค่ะ สำหรับจุดชมธรรมชาติที่น่าสนใจในบริเวณนี้ก็คือ
 
บึงมิกุริกะ
 
 
ท่ามกลางภูเขาสูงมากมาย บริเวณนี้ก็ยังมีสระน้ำสีสวยตามธรรมชาติอย่าง บึงมิกุริกะ (Mikuriga-ike) อยู่ด้วยค่ะ สีน้ำในสระจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม และสีเขียวมรกตในฤดูร้อนที่สะท้อนให้เห็นภาพภูเขาทาเตยามะโดดเด่นบนผืนน้ำอย่างงดงาม เป็นอีกจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่จะแวะมาถ่ายรูปกันค่ะ
 
น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ
 
 
มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องได้ลองสัมผัสการแช่ออนเซ็น หรือน้ำพุร้อนธรรมชาติดูสักครั้งจะได้เข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งบนภูเขาสูงขนาดนี้ก็มีน้ำพุร้อนธรรมชาติอยู่ด้วย นั่นก็คือ น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ เป็นน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ใกล้ๆ กับทางเดินไปบึงมิกุริกะค่ะ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีสถานที่ให้พักผ่อนและสามารถอาบน้ำแร่แบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้ รวมถึงมีไอศกรีมให้ทานด้วยค่ะ
 
ไดกัมโบ
 
 
ถัดลงมาจากพื้นที่มุโรโดะ ที่ความสูง 2,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นที่ตั้งของ ไดคัมโป (Daikanbo) ระเบียงชมวิวภูเขาที่อยู่รอบๆ เป็นจุดพักผ่อนท่ามกลางวิวสวยๆ เหมือนนั่งอยู่บนระเบียงชั้นดาดฟ้าเลยล่ะค่ะ
 
ที่ราบคุโรเบะไดระ

 
ต่ำลงมาจากบริเวณไดคัมโบ เป็นที่ตั้งของที่ราบสูงบนไหล่เขา คุโรเบะไดระ (Kurobe-daira) ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของช่องเขาเหวลึก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวโดยรอบได้อย่างใกล้ชิดด้วยการนั่งกระเช้าข้ามเหวเป็นระยะทาง 1,700 เมตร เส้นทางนี้จะได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ พร้อมกับความตื่นเต้นนิดๆ ของการขึ้นกระเช้า เพราะเป็นกระเช้าที่เป็นลวดสลิงต้นทางถึงปลายทาง โดยไม่มีเสาค้ำหรือคั่นกลาง จนได้ฉายาว่า กระเช้าพาโนราม่า นั่นเองค่ะ
 
เขื่อนคุโรเบะ
 

 
จุดต่อมาจากไดคับโบ ถ้านั่ง Kurobe Cable Car ลงมา เราจะพบกับ เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ซึ่งเป็นเขื่อนที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่น เพราะมีความสูงถึง 186 เมตร! เขื่อนแห่งนี้เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่นำมาใช้พัฒนาประเทศญี่ปุ่นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากจะเป็นเขื่อนที่มีความสำคัญกับประเทศญี่ปุ่นแล้ว วิวทิวทัศน์ตรงนี้ยังสวยงามจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ
 
 
กิจกรรมบริเวณนี้ นอกจากการขึ้นมาชมวิวบนเขื่อนและรอชมสายรุ้งสวยๆ ในวันที่อากาศดีแล้ว อีกกิจกรรมน่าสนใจก็คือ การล่องเรือสำราญ “Garube” ค่ะ เป็นการล่องเรือที่ไม่เหมือนที่ไหน เพราะอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยจะแบ่งเป็นรอบ รอบละ 30 นาที เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปีค่ะ
 
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจท่องเที่ยวในเส้นทางธรรมชาติ รายล้อมไปหิมะสีขาวเกือบตลอดทั้งปีในทัศนียภาพที่สวย คุ้มค่า และควรค่าแก่การมาเที่ยวชมสักครั้งหนึ่งในชีวิตแบบนี้ล่ะก็ห้ามพลาดวิวหลักล้านใน ทัวร์กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น Tateyama-Kurobe Alpine Route กันนะคะ

 
ขอบคุณภาพจาก alpen-route.com , jp-rail-th.com , kuroyonkanko.k-amenix.co.jp
ขอบคุณข้อมูลจาก mushroomtravel